วันนี้ (6 ส.ค.) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกําหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนเคลือบสังกะสี โดยกรรมวิธีทางไฟฟ้าต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ซึ่งเป็นการแก้ไขปรับปรุงมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนเคลือบสังกะสีโดยกรรมวิธีไฟฟ้า เนื่องจากปัจจุบันมีการใช้เหล็กกล้าทรงแบนเคลือบสังกะสีโดยกรรมวิธีทางไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย โดยเอกสารที่ใช้อ้างอิงมีการแก้ไขปรับปรุงเป็นฉบับใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีการและการใช้งานในปัจจุบัน สรุปร่างกฎกระทรวง มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. กําหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบน เคลือบสังกะสีโดยกรรมวิธีทางไฟฟ้าต้องเป็นไปตามมาตรฐานเลขที่ มอก. 2223-2565 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 2275 (พ.ศ. 2566) ออกตามความในพระราชบัญญัติ มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 เรื่อง ยกเลิกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เหล็กกล้าคาร์บอนทรงแบนรีดเย็นเคลือบสังกะสีโดยกรรมวิธีไฟฟ้า คุณภาพทางการค้าและคุณภาพสําหรับการขึ้นรูป และกําหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนเคลือบสังกะสี โดยกรรมวิธีทางไฟฟ้า ลงวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2566 และ 2. กําหนดให้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนด 180 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
“กําหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนเคลือบสังกะสี โดยกรรมวิธีทางไฟฟ้า มีความครอบคลุมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อนและรีดเย็นเคลือบสังกะสีด้านเดียว หรือทั้งสองด้านโดยกรรมวิธีทางไฟฟ้า ซึ่งทั่วไปใช้ทําเครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนยานยนต์ ฯลฯ โดยได้นําเหล็กกล้าทรงแบนไปเคลือบด้วยสารที่มีองค์ประกอบหลักเป็นสังกะสี เพื่อเป็นการปรับปรุง คุณสมบัติการป้องกันสนิม เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย จึงต้องมีการควบคุมให้เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้มีความปลอดภัยในการ ใช้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเป็นการป้องกันความเสียหายอันอาจจะเกิดแก่ กิจการอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ ผู้ทํา ผู้นําเข้าผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนเคลือบสังกะสีโดยกรรมวิธีทางไฟฟ้า จะต้องขอรับใบอนุญาตทําหรือนําเข้าผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมดังกล่าวตามมาตรา 20 หรือมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 และผู้จําหน่าย ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมดังกล่าวที่ได้รับอนุญาต และเป็นไปตามมาตรฐาน” นายคารม กล่าว