“แฮร์ริส” ปราศรัยคัดค้าน “ดีลเข้าซื้อกิจการเหล็กอเมริกัน” 4.8 แสนล้าน..

กมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครตลงแข่งขันเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐแสดงจุดยืนคัดค้านแผนการเข้าซื้อกิจการบริษัทผลิตเหล็กสหรัฐโดยบริษัทผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ในโอกาสปราศรัยหาเสียงสนับสนุนจากสหภาพแรงงาน

วันที่ 3 กันยายน 2024 นิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานอ้างสำนักข่าวเกียวโด (Kyodo) ว่า นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐและตัวแทนเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคัดค้านแผนการเข้าซื้อกิจการบริษัทยูไนเต็ด สเตตส์ สตีล คอร์ป. (United States Steel Corp.) ของสหรัฐ โดยบริษัทนิปปอน สตีล คอร์ป (Nippon Steel Corp.,) บริษัทผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น

แฮร์ริสกล่าวปราศรัยเนื่องในวันแรงงานในเมืองพิตต์สเบิร์ก ว่า ผู้ผลิตเหล็กชาวสหรัฐควรเป็นเจ้าของและดำเนินงานต่อไป ซึ่งแฮร์ริสหวังที่จะได้รับเสียงสนับสนุนจากแรงงานคอปกฟ้า หรือพนักงานใช้แรงงาน ขณะเดียวกันให้คำมั่นที่จะเสริมความแข็งแกร่งแก่ภาคการผลิตของประเทศ โดยเรียกบริษัทยู.เอส สตีล “บริษัททางประวัติศาสตร์”

“สำคัญสำหรับประเทศชาติของเราที่จะรักษาบริษัทเหล็กที่แข็งแกร่งของอเมริกันไว้ให้ได้” เธอกล่าว “ฉันเห็นด้วยอย่างยิ่งกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน… และฉันจะสนับสนุนแรงงานเหล็กและแรงงานอเมริกันทั้งมวลตลอดไป” แฮร์ริสยืนยัน ซึ่งสหภาพแรงงานเหล็กสนับสนุนจุดยืนดังกล่าว

ทั้งนี้ ยู.เอส. สตีล ก่อตั้งในปี 1901 สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองพิตต์สเบิร์ก ซึ่งเป็นเมืองหลักทางทิศตะวันตกของรัฐเพนซิลเวเนีย รัฐสมรภูมิสำคัญในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ วันที่ 5 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้

ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว บริษัทผู้ผลิตเหล็กทั้งญี่ปุ่นและสหรัฐข้างต้นประกาศข้อตกลงการเข้าซื้อกิจการยู.เอส.สตีล มูลค่า 14,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 482,000 ล้านบาท และผู้ถือหุ้นสนับสนุนการเข้าซื้อกิจการที่จะทำให้ยู.เอส.สตีล สามารถแข่งขันในระดับโลกได้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงสร้างผู้ผลิตเหล็กที่ใหญ่เป็นลำดับที่ 3 ของโลก เมื่อวัดจากปริมาณ

อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตเหล็กสหรัฐหลายรายต่อต้านการเข้ามาซื้อกิจการ ทำให้กลายเป็นประเด็นทางการเมืองที่ละเอียดอ่อน จนถึงขณะนี้แผนการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวยังไม่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานดูแลด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหรัฐ…

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :ประชาชาติธุรกิจ