แร่เหล็กราคาต่ำกว่า 90 ดอลลาร์/ตัน ครั้งแรกในรอบ 2 ปี เศรษฐกิจจีนซบเซาเป็นเหตุ

ราคาแร่เหล็กร่วงลง 2.3% เหลือ 89.6 ดอลลาร์ต่อตันในสิงคโปร์ ต่ำกว่า 90 ดอลลาร์ต่อตันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2022 เนื่องจากความต้องการใช้เหล็กที่ซบเซาตามเศรษฐกิจจีน

วันที่ 9 กันยายน 2024 บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ราคาแร่เหล็กร่วงลงต่ำกว่า 90 ดอลลาร์ (ราว 3,056 บาท) ต่อตันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2022 หลังจากที่ต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง จากอุปสงค์ที่ซบเซาของจีนและความกังวลต่อการเติบโตทั่วโลกที่กำลังก่อตัวราคาสัญญาซื้อขายแร่เหล็กล่วงหน้า (Futures) ปีนี้ลดลงกว่าหนึ่งในสามเนื่องจากวิกฤตการณ์เหล็กในจีนที่ยังไม่คลี่คลาย จากปัญหาอุปทานล้นเกิน ไม่เพียงเท่านั้น กลุ่มแร่โลหะพื้นฐานและน้ำมันดิบก็มีราคาลดลงเช่นกันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าปี 2024 จะกลายเป็นปีที่กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ต้องเผชิญกับความระส่ำระสาย

เจีย เจิ้ง (Jia Zheng) หัวหน้าฝ่ายซื้อขายของ เซี่ยงไฮ้ ซูโจว จิวยิ่ง อินเวสต์เมนต์ แมนเนจเมนต์ (Shanghai Soochow Jiuying Investment Management Co.) กล่าวว่า นักลงทุนกำลังเปลี่ยนความสนใจจากเงินเฟ้อในสหรัฐมาเป็นกังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีน เพราะจีนขาดการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีนัยสำคัญ และตลาดก็มีมุมมองต่อเศรษฐกิจจีนในแง่ร้าย

ภาพของความระมัดระวังในตลาดโลหะ ยิ่งถูกเน้นย้ำมากขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยโกลด์แมน แซกส์ กรุ๊ป (Goldman Sachs Group) หั่นราคาพยากรณ์ของทองแดงที่เป็นขาขึ้นมายาวนานลงประมาณ 5,000 ดอลลาร์ (ราว 1.69 แสนบาท) ต่อตัน เนื่องจากอุปสงค์ในจีนที่อ่อนแอ นอกจากนี้ ซิตี้กรุ๊ป (Citigroup) กล่าวว่า ความไม่แน่นอนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ น่าจะทำให้เศรษฐกิจโลกซบเซาและส่งผลกระทบต่อราคาโลหะ

ราคาแร่เหล็กร่วงลงถึง 2.3% เหลือ 89.60 ดอลลาร์ (ราว 3,056 บาท) ต่อตัน ที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ในสิงคโปร์ และซื้อขายที่ 90.60 ดอลลาร์ (ราว 3,075 บาท) เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 9 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ราคาอะลูมิเนียมร่วงลง 0.3% หลังจากร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 8 เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา

ดัชนี LMEX ของโลหะ 6 ชนิดที่ตลาดซื้อขายโลหะลอนดอน (London Metal Exchange) เพิ่มขึ้นเพียง 3% ในปีนี้ (YTD) จากที่เคยเพิ่มขึ้นถึง 25% เมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคม

การบริโภคเหล็กในจีนลดลงเนื่องจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวลงอย่างยาวนาน โดยผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง ไชน่า เป๋าอู่ สตีล กรุ๊ป คอร์ป. (China Baowu Steel Group Corp.) กล่าวว่า อุตสาหกรรมอาจกำลังเผชิญกับวิกฤตที่เลวร้ายยิ่งกว่าช่วงขาลงในปี 2008 และ 2015 แม้ว่าการส่งออกและการเติบโตในภาคส่วนอื่น ๆ จะบรรเทาผลกระทบลงได้บ้าง แต่การผลิตเหล็กที่ลดลงได้ทำให้ตลาดแร่เหล็กต้องแบกรับอุปทานส่วนเกินแทน

อี้ กัง (Yi Gang) อดีตผู้ว่าการธนาคารประชาชนจีน (PBOC) ซึ่งเป็นธนาคารกลางของจีน กล่าวเมื่อวันที่ 6 กันยายนว่า จีนควรเน้นความสนใจไปกับการยุติภาวะเงินฝืด ซึ่งนับว่าไม่บ่อยนักที่บุคคลสำคัญของจีน จะยอมรับว่าราคาที่ตกต่ำกำลังคุกคามแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม การซื้อเหล็กมักจะฟื้นตัวหลังจากช่วงฤดูร้อน ซึ่งอาจเป็นช่วงที่โรงงานผ่อนกำลังการผลิต

คาน เปเกอร์ (Kaan Peker) นักวิเคราะห์ของอาร์บีซี แคปิตอล มาร์เกตส์ (RBC Capital Markets) กล่าวว่า คาดว่าตั้งแต่กลางเดือนกันยายน ราคาแร่เหล็กจะได้แรงหนุนจากฤดูกาลก่อสร้างในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของจีนที่กำลังเริ่มต้นขึ้น และการเก็บสต๊อกตามฤดูกาลช่วงก่อนวันหยุดยาววันชาติจีน ในช่วงวันที่ 1-7 ตุลาคม ..

แหล่งที่มา.ประชาชาติธุรกิจ