มาตรการยกเลิกเตาหลอมเหล็กอินดักชั่นของ “เอกนัฏ” ยังไปไม่ถึงไหน สมอ.หวั่นโดนโรงงานเหล็ก 10 แห่งฟ้องกลับ ตั้งคณะทำงาน 4 ชุดศึกษาให้ถี่ถ้วน กลัวโดน ม.157 มีโอกาสสูงที่รัฐจะแพ้ ขณะที่สถาบันเหล็กฯชี้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องเร่งหาทางแก้ คือ พิษภาษีทรัมป์ ทำเหล็กต่างประเทศทะลักไทยหนักกว่าเดิม
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังการประชุมคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมี นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน ที่ประชุมได้สั่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 4 ชุด ประกอบด้วย ชุดที่ 1 คณะกรรมการปฏิรูปซึ่งจะมีผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่จำนวน 4 คน ที่แต่งตั้งโดยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ชุดที่ 2 คณะทำงานของหน่วยงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นบุคคลภายใน สมอ.
ชุดที่ 3 คณะทำงานของหน่วยงานสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ซึ่งจะมีภาคเอกชนที่มาจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมเป็นหนึ่งในคณะทำงาน ชุดที่ 4 คณะทำงานในส่วนของคณะกรรมการวิชาการ (กว.) โดยคณะทำงานทั้งหมดจะรวบรวมข้อมูล ศึกษาข้อดี ข้อเสีย หากมีการยกเลิกมาตรฐานเหล็กเส้นที่ผลิตจากเตาอินดักชั่น (IF) ว่าสมควรที่จะต้องยกเลิกหรือไม่ จะกระทบกับใครบ้าง ผลกระทบหนักเบาขนาดไหน และผลที่จะตามมาคืออะไรบ้าง โดยข้อหารือจากคณะทำงานทุกชุดจะถูกเสนอข้อมูลเพื่อร่วมกันพิจารณาอีกครั้งในการประชุม กมอ. เดือนกรกฎาคม 2568
อย่างไรก็ตาม การใช้มาตรา 17/1 ตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ว่าด้วย ในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่หากปล่อยให้เนิ่นช้าต่อไปอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือแก่กิจการอุตสาหกรรม หรือเศรษฐกิจของประเทศ คณะกรรมการอาจเสนอรัฐมนตรีเพื่อออกกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมชนิดใดต้องเป็นไปตามมาตรฐาน หรือกฎเกณฑ์ของต่างประเทศ หรือระหว่างประเทศทั้งหมด หรือแต่บางส่วนของมาตรฐาน หรือกฎเกณฑ์ดังกล่าว และในกฎกระทรวงนั้นจะระบุวันเริ่มใช้บังคับน้อยกว่าหกสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาก็ได้
ทั้งนี้ ในกรณีที่มีความจำเป็นอาจกำหนดให้ใช้หรืออ้างอิงมาตรฐานหรือกฎเกณฑ์ดังกล่าวที่เป็นเอกสารภาษาต่างประเทศตามข้อเสนอของคณะกรรมการก็ได้ เพื่อทำการยกเลิกเตา IF นั้น สามารถทำได้ตามอำนาจของรัฐมนตรี แต่กระบวนการจะค่อนข้างยาก
เนื่องจากตามกระบวนการ หากกระทรวงอุตสาหกรรม ออกกฎกระทรวงประกาศยกเลิกการผลิตเหล็กที่มาจากเตา IF เอกชนจะยื่นอุทธรณ์ และฟ้องศาลปกครอง ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าศาลจะสั่งคุ้มครองชั่วคราว นั่นหมายความว่า เอกชนยังสามารถผลิตเหล็กได้ตามปกติ และก็คาดว่าจะเป็นไปได้สูงว่า ศาลปกครองจะพิจารณาไปแนวทางที่ว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นมีความเสียหายกับอุตสาหกรรม ด้วยไทยก็มีมาตรฐานเหล็กเส้นอยู่แล้ว และยังไม่มีประเทศใดบ่งชี้เจาะจงว่าการผลิตเหล็กจากเตา IF นั้นผิด หากออกมาในลักษณะนี้ เอกชนจะใช้อำนาจตาม ม.157 ฟ้องกลับทันที และมีโอกาสสูงที่กระทรวงอุตสาหกรรมจะแพ้
ADVERTISMENT
“หากเราแพ้ มันไม่ใช่แค่ว่าเราไปเปิดให้เขาผลิตได้ต่อ แต่เราจะถูกฟ้องกลับ ซึ่งมันจะยากไปอีก ที่เราต้องมาช่วยกันเรื่องนี้เพราะเราต้องทำตามนโยบาย ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้มันทำให้เกิดผลกระทบกับอุตสาหกรรมเหล็กอยู่มาก แต่เราก็ต้องยอมรับว่าตามกระบวนการมันจะค่อนข้างยาก จึงเป็นที่มาว่าคณะทำงานทั้ง 4 ชุด อาจต้องใช้เวลากับเรื่องนี้นานพอสมควร จริง ๆ แล้วเรามีมาตรฐานเหล็กอยู่ มันคือตัวกำหนดและควบคุมคุณภาพอยู่แล้ว ถ้าเราจะไปยกเลิกเตา ก็ต้องมีกลไกจากภายนอก มาศึกษาว่า เตา IF ไม่ดีจริง จากนั้นก็เสนอบอร์ด กมอ. แล้วไปแก้ไข มอก. ให้ กว. มาช่วยด้านข้อมูลวิชาการ แบบนั้นถึงจะทำได้ และไม่โดนฟ้องด้วย”
สำหรับการลงตรวจโรงงานเหล็กที่ใช้เตา IF ซึ่งมีทั้งหมด 11 บริษัทนั้น ทางทีมสุดซอยได้ลงพื้นที่ครบแล้ว โดยในจำนวนนี้ 10 รายถูกระงับชั่วคราวเพื่อให้ปรับปรุงคุณภาพเหล็ก ภายใต้ พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ซึ่งยังคงสามารถผลิตเหล็กได้และนำมาทดสอบจนกว่าจะผ่านมาตรฐาน แต่จะห้ามจำหน่ายออกสู่ท้องตลาดจนกว่ากระบวนการปรับปรุงคุณภาพเหล็กจะผ่านการทดสอบจาก สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย
หากทั้ง 11 รายสามารถแก้ไขปรับปรุงได้ก็สามารถกลับมาดำเนินกิจการได้เช่นเดิม ส่วนอีก 1 ราย คือ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด เป็นเพียงรายเดียวที่ถูกคำสั่งให้หยุดกิจการชั่วคราว ภายใต้ พ.ร.บ.โรงงาน จากอุบัติเหตุระเบิดในโรงงานเมื่อหลายเดือนก่อน และยังถูกคำสั่งให้ปรับปรุงคุณภาพเหล็ก ภายใต้ พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ร่วมด้วย และยังถูกส่งเรื่องให้สำนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในขณะที่ซิน เคอ หยวนฯ ยังคงพยายามร้องว่าถูกกระทรวงอุตสาหกรรมกลั่นแกล้ง
ด้านนายวิโรจน์ โรจน์วัฒนชัย ผู้อำนวยการสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขั้นตอนการยกเลิกเตา IF สถาบันไม่ได้อยู่ในคณะทำงานชุดใด เนื่องจากเป็นหน่วยงานกลางที่ทำหน้าที่ในการทดสอบคุณภาพเหล็กเท่านั้น สิ่งที่กังวลในขณะนี้มีเพียงเรื่องเดียว คือ การทะลักเข้ามาของเหล็กจากต่างประเทศที่ไม่สามารถส่งออกไปยังสหรัฐได้ ซึ่งเชื่อว่าจะยิ่งมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ดังนั้น รัฐต้องมีมาตรฐานควบคุมดูแลที่เข้มงวดให้มากที่สุด…
แหล่งข้อมูล.ประชาชาติธุรกิจ